ความเห็นล่าสุด
7. ใส่ Templates สวยๆให้ Description เราดูโดดเด่นกันเถอะ
วันนี้ผมจะมาแนะนำ การใส่ Templates สวยๆ ลงใน Description อย่างง่ายๆกันครับ
6. ให้ Feddback ลูกค้าก่อนหรือหลังดี ?
เวลาลูกค้าซื้อของและจ่ายเงินมาแล้ว ควรจะให้ feedback ก่อนหรือหลังดีนะ
เพื่อนๆ ให้ก่อนหรือหลังครับ ความจริง อีเบย์ก็ไม่ได้มีกฏบังคับว่าต้องให้
ในหนังสือบางเล่ม และผู้สอนคอร์สอีเบย์ บางคนก็แนะนำว่า ควรจะรอลูกค้าให้ feedback ก่อนถึงค่อยให้กลับ
ดังนั้นจึงมีผู้ขายบางคนให้ feedback ก่อน
ผู้ขายบางคนให้ feedback ทีหลัง
5. หาสินค้าขายดีแบบไม่ง้อ keyword
วันนี้ผมจะมาบอกเคล็ดลับการหาสินค้าในอีเบย์ที่ขายโดยคนไทยแบบไม่ง้อ keyword กันครับ เคยอยากรู้ไหมครับ ว่าแคตตาล็อกนี้ มีสินค้าที่ขายโดยคนไทยทั้งหมดกี่ชิ้น ถ้าเราหาผ่าน Advanced search จะหาไม่ได้ครับ เพราะมันบังคับให้ต้องใส่ keyword และผลลัพท์มันก็จะออกมาเฉพาะ keyword ที่เราหา แต่วิธีที่ผมจะบอกต่อไปนี้ มันจะบอกสินค้าทั้งหมดของคนไทยที่ขายในแคตตาล็อก หรือหมวดหมู่นั้นๆเลยครับ วิธีนี้ผมเพิ่งค้นพบวันนี้เองแบบบังเอิญมาก มันเป็นวิธีที่เส้นผมบังภูเขาจริงๆครับ วิธีนี้จะทำให้เราได้เห็นสินค้าบางอย่างที่เราไม่คาดคิดเลยครับ ว่าจะขายได้ อ่านเพิ่มเติม
4 จุดสำคัญ จะขายสินค้าอีเบย์ออกหรือไม่ออก ก็ตรงนี้แหละ
เมื่อเรามีสินค้าที่ลงขายแล้ว แต่ยังขายไม่ได้ ยอด view ไม่กระเตื้อง หรือมียอด view เยอะ แต่ยังขายไม่ได้ ให้ลองพิจารณา 4 จุด ดังนี้ครับ
- Title หัวข้อสินค้า
- Picture ภาพสินค้า
- Price ราคาและค่าขนส่ง
- Description รายละเอียดสินค้า
3. วิธีหาเบอร์โทรลูกค้าในอีเบย์
วันนี้เราจะมาหาเบอร์โทรศัพท์ลูกค้าในอีเบย์กันครับ เปล่าครับไม่ได้หามาเพื่อโทรไปคุยกะลูกค้านะครับ แต่เราหามาเพื่อใส่ลงไปในที่อยู่ของลูกค้า ตอนเราส่งของครับ เผื่อกรณีที่ ลูกค้าไม่อยู่บ้าน หรือสินค้ามีปัญหาอะไร ไปรษณีย์ ก็จะได้มีช่องทางในการติดต่อกับลูกค้าในเบื้องต้นครับ เป็นการลดปัญหาที่อาจจะเกิดจากการส่งสินค้าไปได้อีกระดับนึงนะครับ อ่านเพิ่มเติม
2. หาสินค้าขายดีในอีเบย์ ด้วย WatchCount.com
http://www.WatchCount.com เป็นเครื่องมือนึีงที่ใช้ฟรีๆ เพื่อหาสินค้าขายดีในอีเบย์ และ หาKeyword ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว พร้อมกันหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้ว มาหา สินค้าขายดีในอีเบย์ด้วยกันเลยครับ
ก่อนอื่นเข้า http://www.watchcount.com กันก่อนครับ เมื่อเข้ามาแล้วก็จะเจอหน้านี้เลยครับ อ่านเพิ่มเติม
1. หาสินค้าขายดีในอีเบย์
การที่เราจะขายของในอีเบย์ จะขายดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับสินค้าที่เราจะหามาขายครับ และในอีเบย์ก็มีเครื่องมือที่จะให้เราหาสินค้าขายดีอย่างง่ายๆ เราลองมาทำกันเลยครับ ก่อนอื่นเข้า http://www.ebay.com แล้วคลิก คำว่า Advanced หลังปุ่ม Serch ตามรูปเลยครับ
เมื่อคลิก Advanced แล้ว เราก็จะเข้ามาสู่หน้า Advanced Serch ทีนี้เราก็มาหาสินค้าขายดีที่ขายโดย พ่อค้าที่อยู่ที่เมืองไทยกันครับ ที่ช่อง Enter keywords or item number ให้เราใส่ keyword หรือสินค้าอะไรที่เราคิดจะขายครับ ถ้าคิดไม่ออกจะใส่ Ta, Be , Ma อะไรก็ได้ครับ ในช่อง Search including ให้เราติ๊กที่ Completed listings ครับ เพื่อจะดูว่า สินค้าที่ขายจบไปแล้วมีอะไรบ้าง ที่ขายได้และขายไม่ได้ หากจะดูสินค้าที่ขายได้ ก็ติ๊กที่ Sold listings แต่ผมแนะนำให้ ดูทั้ง Completed listings และ Sold listings ประกอบกัน ในการวิเคราะห์สินค้าดีกว่าครับ 
เลื่อนลงมาที่ Location ตรง From preferred locations ให้เลือก Worldwide ครับ เพื่อที่เราจะดู สินค้าของไซด์ทั้งหมดของอีเบย์ครับ ที่ Located in ให้เราเลือก Thailand นะครับ เพื่อที่เราจะดูเฉพาะผู้ค้าคนไทยที่ขายในอีเบย์เท่านั้นครับ 
เมื่อใส่ทุกอย่างครบถ้วนแล้ว เราก็ กดปุม Serch ไปพร้อมๆกันเลยครับ *************************************************** เมื่อ ผมใส่ Keyword คำว่า mama ลงไป เลือก Completed listings เลือก Worldwide เลือก Thailand และเมื่อผมกด Serch ก็จะแสดงผล สินค้าที่มีคำว่า mama บน Title ของผู้ขายสินค้าในประเทศไทย ณ วันที่ 25 กรกฏาคม 2558 ผลลัพท์ที่แสดงออกมา มี สินค้าที่ Title คำว่า mama ทุกหมวด ทุกแคตตาล็อกที่จบการขายไปแล้ว มี 125 รายการ ดูซ้ายมือครับ จะมีให้เราติ๊กที่ Sold listings เพื่อดูว่า มีสินค้าขายได้กี่รายการ 
เมื่อผมให้มันแสดงผล Sold listings ก็จะเห็นว่ามีสินค้าคำว่า mama ขายได้ทั้งสิ้น 57 รายการ ทีนี้เราก็เริ่มวิเคราะห์ได้แล้วครับ สินค้าที่จบการขายไปแล้ว มีทั้งสิ้น 125 รายการ ขายได้ 57 รายการ ผมใช้สูตร (สินค้าที่ขายได้ หาร สินค้าที่ทั้งหมด) x 100 57 หาร 125 = 0.456 x 100 = 45.6% สรุปว่า สินค้าที่มีคำว่า mama คิดเป็นเปอร์เซ็นต์การขายอยู่ที่ 45.6% ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์มาก ก็ยิ่งมีโอกาสขายได้มาก เอามาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เลือกสินค้าที่ขายครับ จริงๆ หากจะวิเคราะห์ให้ลึกจริงๆ ต้องดูว่า -สินค้าที่ขายได้นั้น ลงขายในหมวดหมู่ไหน แคตตาล็อกอะไร -ช่วงเวลาลงขาย (สินค้ากลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพ่อบ้าน กลุ่มเด็ก ก็จะมีช่วงเวลาขายดีต่างกันไปครับ) -สังเกตุการใช้ Keyword Title ของคนขายได้ -จำนวนผู้ขาย ณ เวลานั้น ราคาขายและค่าขนส่ง การเจาะลึกลงไปในแต่ละหมวด แต่ละแคตตาล็อก สัดส่วนการขายสินค้าชิ้นนั้นๆก็เปลี่ยนไปด้วย ตรงนี้หากม่ีเวลาเข้าไปดูทุกหมวด ทุกแคตตาล็อกครับ เผื่อจะเจอของดีที่เราไม่คาดคิดก็ได้ครับ หากเรายิ่งแยกวิเคราะห์ในแต่ละหมวด ในแต่ละแคตตาล็อก ก็จะยิ่งดี ยิ่งวิเคราะห์ได้ลึกและละเอียดเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้เปรียบคู่แข่งและ สามารถเลือกหาสินค้ามาขายได้ถูกต้องยิ่งขึ้นครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มขายอีเบย์บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้หาสินค้าขายดีมาขายกันได้ทุกคนนะครับ ขอบคุณที่อ่าน บล็อกบทแรกในชีวิตของผมนะครับ หากมีเวลาก็จะเขียนบทต่อๆไปที่คิดว่าน่าสนใจครับ อ่านเพิ่มเติม
ebayshare 